ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นช่างหรือวิศวกรที่จบทางด้านสายงานทางด้านก่อสร้างแต่อย่างใด (จบช่างเถอะ55+) แต่ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมงานกับบริษัทค้าวัสดุแห่งหนึ่งซึ่งมีหุ้นส่วนเป็นโรงงานผลิตอิฐประสานจากมาเลเซีย ด้วยความรู้เพียงน้อยนิดทางด้านวัสดุก่อสร้างครั้งแรกที่ได้ยินคำว่าอิฐประสานก็พอจะนึกไปถึงพวกอิฐตกประเภทหนึ่งที่มักเห็นเขาเอามาล้อมทำกรอบกระถางต้นไม้หรือรั้วขนาดไม่สูงนัก มีทั้งแบบที่วางซ้อนกันเฉยๆ (เพื่อว่าอาจจะรื้อย้ายปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต) และแบบที่มีการกรอกปูนเข้าไปในช่องเพื่อให้ปูนไหลเข้าไปล๊อครอยต่อของอิฐ

แต่เมื่อต้องมาได้ร่วมงานจึงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจึงทำให้เข้าใจได้ว่าประโยชน์ของมันสามารถนำมาใช้งานได้มากกว่าที่เคยรู้มาก่อน เอาเป็นว่ามันสามารถเอามาใช้สร้างบ้านได้ทั้งหลัง ผมไปดูโรงงานผลิตและบ้านและอาคาร(ตึก) ที่สร้างเสร็จมีคนอยู่อาศัยแล้วที่ประเทศมาเลเซียมา ขนาดตึกสามชั้นก็ยังสามารถนำวัสดุชนิดนี้ไปใช้ก่อสร้างได้ (หมายเหตุ หากอาคารมีขนาดใหญ่และความสูงมากกว่าสองชั้นอาจจะต้องมีเสาและคาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบของวิศวกร วิศวกะอย่างผมคงไม่สามารถอธิบายได้ดีพอ5+)

วัสดุชนิดนี้มีหลากหลายรูปทรงและขนาด ขึ้นอยู่กับแบบและลิขสิทธิ์ของใครของมัน ความสามารถในการรับแรงยังขึ้นกับสูตรส่วนผสมของผู้ผลิตอีกด้วย เข้าใจว่าในท้องตลาดบ้านเรามีผู้ค้าหลากหลายหากผู้อ่านสนใจนำมาใช้ก็สามารถหาข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมได้ไม่ยาก

หน้าที่ผมในตอนนั้นมีโจทย์อยู่ว่าจะประชาสัมพันธ์ ให้ผู้คนรู้จักคุณสมบัติของวัสดุตัวนี้อย่างลึกซึ้งได้อย่างไร หากใครอ่านบทความของผมก่อนหน้านี้เรื่องบ้านไร้คานและเสา ก็คงพอจะทราบว่าทางทีมงานเราได้วางแผนไว้สองลำดับคือการออกบู๊ตโชว์เพื่อประชาสัมพันธ์ และการสร้างอาคารจริงไว้โชว์ให้ลูกค้าที่สนใจเข้าไปชมและซักถามข้อสงสัยสำหรับในตอนนี้ผมจะขอเอาเฉพาะเรื่องการออกบู๊ตโชว์ที่ห้างไทวัสดุจังหวัดมุกดาหารมาเล่าสู่กันฟัง

เริ่มตั้งแต่ติดต่อขอเช่าล๊อคพื้นที่ของทางห้าง ซึ่งก็ไม่แพงสำหรับต่างจังหวัดตอนนั้นผมขอเช่าประมาณ 15 ตรม. ระยะเวลา 3-4 เดือนได้ เดือนนึงก็ไม่น่าเกิน 4-5 พันบาท (จำตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้ แก่แล้วความจำสั้น5+) ประเด็นที่ต้องคิดเยอะตอนนั้นคือ จะออกแบบบู๊ตแนวไหนดีเพื่อดึงดูดความสนใจและได้ประโยชน์สูงสุด หลังจากคิดแล้วจึงได้ไอเดียออกมาว่าน่าจะเอาอิฐมาสร้างทำเป็นห้องสี่เหลี่ยมและมีการฉาบปูนและทาสีให้เรียบร้อย

ภายในสามารถเดินเข้าไปเพื่อชมภาพแกลเลอรี่ตัวอย่างที่ถ่ายงานของจริงมาให้ดูและไว้อธิบาย และทำแนวกำแพงที่วางอิฐแบบเปลือยๆ คือวางอิฐซ้อนไว้เฉยๆ เพื่อให้เห็นขั้นตอนของการนำไปใช้งาน และมีจอมอนิเตอร์เพื่อเปิดคลิปการจำลองการก่อสร้างจริงให้ผู้สนใจชม และมีโต๊ะเล็กๆ สำหรับพนักงานและลูกค้าไว้นั่งคุยกัน

การวางตำแหน่งของงานก่ออิฐ จะวางเฉียงๆ และลงสีให้ตัดกันอย่างชัดเจน เพื่อจุดประสงค์บางประการเช่น เพื่อให้เห็นการเข้ามุมของการซ้อนอิฐแต่ละชั้นอย่างชัดเจน และการเฉียงกำแพงรั้วเพื่อไว้เก็บของใช้จุกจิกไว้ด้านหลังเพื่อหลบสายตาให้ไม่ดูรกสายตาผู้เดินผ่านไปมา

งานที่ออกมาก็ค่อนข้างพอใจ ทีมงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผลงานที่ออกมาไม่มีคำชื่นชมแต่ก็มีติติงนิดหน่อยเรื่องของการเลือกใช้สี ประมาณว่าคนมาเลเซีย (บางคนมั๊ง) เขาไม่ชอบสีเขียวซึ่งเขาก็ไม่ได้ให้เหตุผลว่าที่ไม่ชอบนั้นเป็นเพราะมันไม่เข้ากันด้วยหลักทฤษฎีการเลือกสี หรือเพราะความไม่ชอบด้วยส่วนตัวอย่างไร

สำหรับผมก็เลือกๆ สีไปด้วยเพราะต้องการความฉูดฉาดเมื่อมองแต่ไกล และการตัดกันของสีภายนอกและภายในเพื่อให้เกิดมิติ และดึงดูดให้คนที่เดินผ่านอยากจะเดินเข้าไปดูว่าข้างในมันมีอะไร

ผลตอบรับหลังจากเริ่มเปิดบู๊ตก็เป็นไปด้วยดี มีผู้สนใจเข้ามาสอบถามเป็นที่น่าพอใจ บางคนเป็นต่างชาติ(ฝรั่ง) เขาบอกว่าตามหาวัสดุแบบนี้มานานเพราะอยากสร้างบ้านที่ใช้วัสดุชนิดนี้ ที่ประเทศเขาเป็นที่นิยม แต่หาในไทยไม่มี (จริงๆ แล้วคือมี แต่คุณสมบัติมันไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ) บางคนก็เป็นคนจากฝั่งลาว เข้ามาสอบถามข้อมูลแบบเป็นจริงเป็นจัง เพราะวัสดุเดียวกันนี้มีโรงงานในสะหวันนะเขต และมีงานก่อสร้างที่ใช้วัสดุตัวนี้อยู่ด้วย

ผลลัพธ์ที่ได้จากการออกบู๊ตได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งที่สำคัญว่า ผู้ที่สนใจจริงๆ ส่วนใหญ่ (ขอเน้นว่าส่วนใหญ่) อยากใช้วัสดุตัวนี้ แต่ต้องการให้ผู้ขายจัดการให้ครบวงจรตั้งแต่การออกแบบจนถึงการก่อสร้าง เพราะหากจะให้เขาไปคุยกับ ผู้ออกแบบเอง หรือช่างผู้รับเหมาเองก็น่าจะเป็นปัญหา เพราะผู้รับเหมาก็ไม่ชำนาญเรื่องการใช้วัสดุลักษณะนี้ (ก็จริงของเขานะ) ส่วนในด้านของเจ้าของผลิตภัณ์เองก็รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดปัญหาแบบนี้ เพราะความตั้งใจจริงคือเขาต้องการขายวัสดุให้กับผู้รับเหมาอีกทีหนึ่ง เพราะด้วยคุณสมบัติวัสดุเองที่เหมาะอย่างมากสำหรับงาน DIY เหมาะสำหรับผู้รับเหมาเล็กๆ หรือผู้ใช้งานที่มีความรู้ทางช่าง สามารถจะนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย (เช่นที่ผมข้ามไปดูที่ฝั่งประเทศลาว เขาเอาไปสร้างรั้วโรงงาน สร้างกำแพงกันดินถล่ม สร้างป้อมยาม สำนักงานนิคม และอาคารหอพัก ฯลฯ)

แต่หากจะเป็นที่สนใจของผู้รับเหมารายใหญ่ๆ นำไปสร้างบ้านขายก็คงจะไม่ เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีอื่นๆ ที่เหมาะสมกว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างด้วยระบบเสาคานและการก่ออิฐฉาบปูนแบบเดิมๆ สำหรับโครงการเล็กๆ หรือโครงการใหญ่ๆ สมัยใหม่ที่เดี๋ยวนี้ที่นิยมใช้ระบบพีคาสท์ (ระบบหล่อพื้นหรือผนังจากโรงงานแล้วนำมาประกอบหน้างาน) หรือระบบที่เรียกว่าฟอร์มเวิร์ค (ตั้งแบบเทหล่อบ้านหรืออาคารทั้งหลังหน้างาน) ซึ่งทำให้ประหยัดต้นทุนด้านเวลามากกว่า แต่ผู้จะทำแบบนั้นได้ก็ต้องเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ๆ

ปัจจุบันเท่าที่ทราบเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้เปิดโรงงานผลิตอยู่ที่จังหวัดนครปฐม และมีการออกบู๊ตโชว์ที่งานสถาปนิกโชว์ที่เมืองทองอยู่เรื่อยๆ น่าจะทำให้คนรู้จักวัสดุชนิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่จะมีคนอยากลองนำไปใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหนอันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ



