จากที่เคยบทความเรื่องการออกบู๊ตแนะนำอิฐประสานที่ไทวัสดุไป และอย่างที่บอกไปว่าอิฐตัวนี้เหมาะกับการเอาไปใช้กับงาน DIY งานที่เจ้าของหรือผู้รับเหมารายเล็กๆ อยากเอาไปสร้างเสริม ต่อเติม ด้วยไอเดียต่างๆ ตามแต่จะคิด

ผมมีงานตัวอย่างชิ้นหนึ่งซึ่งออกแบบไว้เล่นๆ (เขียนไม่เสร็จ) แต่ก็ออกแบบตามความต้องการของลูกค้ารายหนึ่งที่เขาเป็นเจ้าของโรงแรม และเขาสอนใจอยากลองใช้อิฐประสานรับแรงตัวนี้ โดยเขาให้โจทย์มาว่า โรงแรมของเขามีพื้นที่ว่างที่อยู่ติดกับลำห้วยสาธารณะ และอยากจะสร้างบังกะโลเล็กๆ ติดริมคลอง เป็นหลังๆ สักห้าหรือหกหลัง แต่ละหลังมีความเป็นส่วนตัว ลูกค้าจอดรถแล้วแล้วเดินขึ้นห้องได้เลย (คงอารมณ์ประมาณม่านรูดมั๊งผมว่า5+) เขาลองให้ผมร่างภาพออกมาให้เขาพิจารณาดู

จากโจทย์ผมเลยลองออกแบบให้เขาดู โดยจับประเด็นตรงที่ว่าบังกะโลนั้นปลูกอยู่ริมลำห้วยสารธารณะ และเมื่อไปดูสภาพสถานที่จริงซึ่งพื้นที่ริมห้วยนั้นอยู่ติดกับลานจอดรถกว้างๆ หากมองจากลานจอดรถเข้าไปหาตัวอาคารโรงแรมขนาดสามชั้น และมีถนนคอนกรีตตัดผ่านหน้าอาคาร ผมเห็นปัญหาอย่างหนึ่งว่าหากเมื่อปลูกบังกะโลออกมาแล้วซึ่งหน้าบ้านหรือทางเข้าจะต้องหันหน้าเข้าหาตัวอาคารโรงแรมซึ่งอยู่อีกฝากถนนหนึ่ง มันจะเป็นจุดที่สายตาของคนที่อยู่ห้องพักต่างๆ บนอาคารสามารถมองลงมาที่หน้าบ้านทางเข้าของบังกะโลได้ง่าย ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว อารมณ์ความรู้สึกประมาณว่าถึงแม้ว่าเอาเข้าจริงจะไม่มีใครมาสนใจมองหรอก แต่ใจคนเข้าพักก็เป็นไปได้ที่จะคิดไปเองเสียมากกว่า ตรงจุดนี้ผมเลยเข้าใจโจทย์เรื่องความเป็นส่วนตัว อีกข้อนึงคือมีลูกค้าประเภทหนึ่งที่มักจะเข้าพักค่ำๆ หรือดึกๆ อารมณ์ประมาณว่า อยากที่จะจอดรถหรือทิ่มหัวรถเข้ามาที่หน้าบ้านแล้วลงจากรถแล้วก็เดินเข้าห้องพักได้เลย ผมเองจากที่พักอยู่โรงแรมนี้อยู่หลายเดือนก็สังเกตุเห็นได้อยู่เช่นกัน

ส่วนอีกฝากฝั่งของลำห้วยเป็นที่ว่างเปล่าเวิ้งว้าง มองไปเขียวขจีไปด้วยดงหญ้าสลับสับเปลี่ยนกับแปลงพืชไรของชาวบ้าน และมองไกลไปไม่มากนักก็มีภูเขาขนาดย่อมๆ (ใหญ่แต่ไม่สูง) ทำให้ได้ความรู้สึกของความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างดี

จากสภาพแวดล้อมหน้างานจริง ผมเลยได้แนวคิดที่ใช้ในการออกแบบออกมา 3 ข้อได้คือ 1) ทำให้อารมณ์ความรู้สึกของหน้าบ้าน (ทางเข้า) เหมือนเป็นหลังบ้าน คือเรียบๆ ลับตา ไม่ต้องหรูหราเพราะไม่เน้นประโยชน์ใช้สอย 2) ทำหลังบ้านให้โอ่โถงเหมือนเป็นหน้าบ้าน มีพื้นที่กว้างขวางพอเหมาะสำหรับนั่งกินลมชมวิวหรือทำกิจกรรมเล็กๆ สำหรับผู้ที่มาพักเป็นกลุ่ม 3) หลีกเลี่ยงการออกแบบที่ใช้หลังคาทรงเพิงหมาแหงน เพราะถึงจะเรียบง่ายดูทันสมัย แต่ก็ซ้ำซากจำเจมีให้เห็นเกร่อไปหมด และสุดท้ายข้อ 4) คือโชว์เส้นสายของลายอิฐ โดยอิฐที่จะนำมาใช้จะเป็นอิฐทรงเฉียงข้าง ซึ่งเมื่อนำมาวางซ้อนแล้วมองไกลๆ จะดูเหมือนเป็นบ้านแบบตีฝาผนังไม้ซ้อนเกล็ดแต่จริงๆ แล้วเกิดจากการวางซ้อนของอิฐ

หลังจากลองออกแบบ ผมวาดออกมาเป็นบ้านซึ่งแต่ละหลังไม่ได้ติดกันเว้นระยะห่างของแต่ละหลังนิดหน่อยเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวน แต่ก็ทำหลังคาร่วมให้ยาวคลอบคลุมทั้งหมด 4 หลัง (ดังรูป) แต่เจ้าของไม่ชอบเท่าไหร่และต้องการให้แยกออกเป็นหลังเดี่ยวๆ มากกว่า

ส่วนหน้าบ้านผมออกแบบให้มีระเบียงทางเดินน้อยเท่าที่จำเป็น เพราะผู้ที่เข้าพักคงไม่ต้องการให้เป็นจุดสนใจจากสายตาผู้อื่น และยังนำอิฐประสานวางเรียงซ้อนให้เหลื่อมกันเพื่อให้ได้อารมณ์คล่ายกับเป็นระแนงบังตาอีกส่วนหนึ่ง หลังคาผมออกแบบเป็นจั่วสองชั้นซ้อนกันและเพิ่มเส้นตัดของลายอิฐเข้าไปเพื่อให้ดูแปลกตา และทำมุขเล็กๆ ยื่นออกมาจากลาดของหลังคา และแต่งด้วยช่องกระจกสีเพื่อใส่โคมไฟเข้าไปข้างใน ไว้เปิดเมื่อตอนที่มีแขกเข้าพัก
